20 May, 2009

แบ่งปันเคล็ดลับ แต่งตัว สาวอวบอั๋น จ้า............

ความจริงเราว่าผู้หญิงถ้าอยากสวยมั่นใจ หุ่นดี ดูเพรียว แม้จะมีรูปร่างอันอวบอั๋น ก็แต่งสวยแบบมั่นใจๆ ได้นะ แค่ลองเลือกแบบให้เหมาะกับเราเท่านั้นก็โอแล้ว สำหรับวันนี้มีเทคนิคการแต่งตัวที่ได้มาจากเว็บไซต์ http://www.ladyvisa.com/ มาละพอดีอ่านเจอ สำหรับเพื่อนสาวๆ ที่มีหุ่นค่อนข้างเตี้ยและอวบก็ลองทำตามเทคนิคนี้ได้...
เค้าบอกว่าวิธีแต่งตัวให้รูปร่างเพรียวขึ้นมีเทคนิคง่ายๆ ก็คือ ให้เราลองหา เสื้อพอดีตัวใส่โดยลองใส่เข้าคู่กับกระโปรงทรงเอ หรือถ้าในวันสบายๆ ก็หาเสื้อยืดกับกระโปรงสั้นเหนือเข่าใส่ซะ แล้วใช้เข็มขัดคาดปั๊บก็เป็นอันเรียบร้อยดูเก๋ไปอีกแบบ อิอิ เพราะจะได้เน้นช่วงเอวให้ดูเล็กหรือเพื่อนสาวคนไหนที่ชอบใส่เดรสก็แนะให้เป็นเดรสต่อใต้อกนะจ้ะ ใส่โทนเข้ม โทนอ่อนตามสบายเลย ยังไงก็ให้ระวังเรื่องลวดลายด้วยอ่ะ เพราะเค้าบอกว่าพวกลายกราฟิกใหญ่ๆ หรือดีไซน์ของเสื้อผ้าที่มีหลายชั้นดูพองๆ หรือจับจีบเป็นเลเยอร์ๆ อะ คะ จะทำให้ยิ่งดูเตี้ยเข้าไปใหญ่
ถ้าไม่อยากให้ลุคที่ออกมาดูเรียบจืดซะ ก็ลอง หาเครื่องประดับมาใส่หน่อย เลือกใส่แบบน้อยชิ้นแต่ดูเก๋ เพียงเท่านี้เพื่อนสาวทั้งหลายที่มีอวบอั๋นและรูปร่างแลดูเตี้ย ก็สวย ดูเพรียวขึ้น เดินเฉิดฉายมั่นใจ ออกจากบ้านได้แล้ว ละ

ขอขอบคุณ Content ดีๆ ที่แบ่งปันเทคนิคสวยๆ จาก http://www.ladyvisa.com/ มากค่ะ
และรูปจากเว็บ vinegargirl.com ด้วยนะ ถ้ามีอะไรอัพเดทเราจะมาเขียนให้อ่านกันเรื่อยๆ นะยังไงก็ขยันอ่านหน่อย 555 + หรือจะเข้าไปอ่านเองเลยก็ได้ที่ www.ladyvisa.com นะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะจ้ะ.......

19 May, 2009

อากาศร้อน...กินส้มตำ...แทบเป็นลม

เฮ้อ....... +_+'   อากาศร้อนซะเกือบเป็นลม


ย้อนวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2552 


นัดพี่นกกับพี่จอยทานส้มตำ  ร้านส้มตำ  เสาร์-อาทิตย์ (ตั้งเอาเองก็ไปกินแค่สองวันนี้เท่านั้นละ

นัดทาส้มมตำ  กันบ่ายโมงเราออกไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ หน้าเซเว่น บ้านเราแล้วก็แวะซื้อข้าวให้ซีบี เพราะเริ่มเบื่อละทานแต่ส้มตำ   ส่วนเจ้าตัว คุณชายซีบีก็นอนหลับปุ๋ย อยู่บนห้องโน่นเพราะว่า เมื่อคืนเล่นเกมแล้วนอนประมาณตอนหกโมงเช้าน่าจะได้ นะ (คิดว่างั้น) มันน่าส่งไปเล่นเกมชิงแชมป์โลก เล่นมันอยู่ได้ทั้งวี่ทั้งวัน เฮ้อ อ่านะก็เข้าใจว่า คลายเครียดดด  นั่งกินไปบ่นไปบวกระบายความในใจ

เกี่ยวกับเรื่องที่ทำ  งาน ซึ่งกำลัง เป็นประเด็นที่ร้อนแรงพอกับอากาศที่ร้อนระอุ ในตอนนี้ ขณะนั่งทานอยู่ ก็มีลมที่พัดเข้ามาปะทะหน้าเรื่อยๆ ซึ่งเหงื่อไหลไคลย้อยเรื่อยๆ  แต่ไอ้ลมที่พัดมานี่ดิแทนที่จะเป็นลมเย็นกลับพัดมาแต่ลมร้อนทั้งนั้น วันนี้จึงเป็นวันที่ใช้เวลานั่งจัดการกับอาหารที่สั่งมาบนโต๊ะ อย่างเนิบนาบนานพอควร พอมาดูเวลาอีกทีตอนจะเรียกเช็คบิลแล้วก็จะบ่ายสามละ  กินไปเม้าท์ไป ร่วมสองชั่วโมง...


พอจะลุกก็เห็นซีบีก็เดินก็เดินมาหาที่ร้านพอดี เอิ่ม...ทุกอย่างดูจะเกือบปกติแต่มีที่น่าสังเกตของการมาเยือนครั้งนี้คือ ซีบีใส่รองเท้าผ้าใบมาละ พี่ๆเห็น คงงงเลยถาม สรุปได้ความว่าที่ต้องเอารองเท้าผ้าใบมาใส่เพราะว่าเราเอารองเท้าแตะของซีบีใส่มา (เลยรีบก้มลงดูที่เท้าตัวเอง ณ บัดนั้นทันที ) เออ... จริงด้วย แหะๆ ลืมไป (มิน่าละถึงใส่รองเท้าผ้าใบออกมา) นึกว่าไปวิ่งที่ไหนมาฟิตเกิ๊น..ก็อากาศออกจะร้อนปานนี้

ตอนที่เดินกลับมาจากที่ร้านเราเดินกลับมาพร้อมซีบี ซึ่งพากันข้ามไปเดินถนนฝั่งตรงข้ามที่ไม่มีแดด จากนั้นก็แวะร้านขนมข้างร้านซื้อไอศกรีม น้ำแข็งและน้ำ  ขณะเดินขึ้นไปตรงบันได  ตอนแรกๆ ก็ยังเดินไหว แต่พอเริ่มเข้าชั้นที่สองละ รู้ตัวเลยว่าตัวเองเริ่มหน้ามืด หายใจติดขัด จุกมากที่บริเวญใต้ลิ้นปี่ เลยตัดสินใจนั่งลงตรงบันไดแล้วบอกซีบีให้ไปเปิดประตูห้อง ส่วนรายนั้นก็กลัวว่าเราจะหงายหลังตกลงไปเพราะว่าเรานั่งยองๆ หันหลังให้บันไดอยู่ หลักจากที่เข้าไปในห้องเท่านั้นละ หน้าเริ่มซีดเลยพอดีว่าแอบมองหน้าตัวเองตอนเดินผ่านกระจก(พอดีเป็นโรคเห้นกระจกแล้วต้องมอง) จากนั้น...ล้มตัวลงนอนที่ ที่นอนอันดับแรก แต่นอนไปก็อึดอัดชักกลเลยลุกมานั่งสักพักที่เก้าอี้โดเรมอนแต่ไม่มีแววว่าจะดีขึ้นกลับยิ่งหายใจไม่สะดวกเข้าไปใหญ่ ซีบีบอกนั่งหหลังไม่ตรงแบบนี้จะหายใจไม่สะดวกเราก็เลยเปลี่ยนไปนอนบนเตียงแทน ทีนี้หน้านี่ซีดมากที่เห็นเพราะว่าสังเกตหน้าตาตัวเองตอนเดินผ่านกระจกอีกที หลังจากนั้นก็นอนแผ่หลา บนเตียงได้แต่หายใจยาวๆ ซีบีไปเอาพวกยาดม พิมเสนมาให้ ประมาณสัก สิบนาทีได้หลังจากที่ได้นอนพักในห้องที่เย็นด้วยแอร์ ก็ดีขึ้น จากนั้นกหลับปุ๋ยไปสี่โมงกว่าๆ เราก็ตื่นมา เปิดคอมเล่นเน็ต ดู Youtube  ส่วนซีบีน่ารักมากวันนี้ว่าง่ายแหะ พอช่วงหัวค่ำ  ก็เอาอุปกรณ์ขัดห้องน้ำ  ออกมาเตรียมตัวปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย จากนั้นซีบีก็อาบน้ำ    เราก็นั่งบันทึกไดอารี่เรื่องราวของวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าข้าวเย็นจะทานอะไรไม่ค่อยหิวแหะกลับยังอึดอัดแล้วก็อิ่มๆ ซะมากว่างเพราะตอนบ่ายทานเยอะมั้ง...


ให้ตายเหอะวันนี้ไม่ได้อ่านหนังสือ SEO แล้ววันพรุ่งนี้ถ้าพี่เค้าถามถึงความเคลื่อนไหวจะเอาอะไรอัพเดทให้ฟังเนี่ย ตายแน่กรู อยากออกไปยืนกลางถนนให้แดดเผาตายเลย แต่กลัวไม่ตายดิ ดำแทน ทีนี้เสียเงินอีกดิ ซื้อครีมบำรุงพวกไวท์เทนนิ่ง เฮ้อ โอ๋ละหนอ....ชีวิต..คิดไปได้  

เฮ้อ ...... อากาศมันร้อนนนนนน...เว้ย...

 







04 May, 2009

เรื่องวันเกิด...แบบเปิดใจ

วันเกิด...เปิดใจ

วันเกิดที่ใกล้มาถึงปีนี้ บรรยากาศอึมครึมโคตร พาอารมณ์หม่นหมอง
มรสุมชีวิตกำลังถาโถม ซัดตู้ม !!! เข้ามาอย่างแรง...!!!
มันจะอะไรหนักหนา หรือว่าอายุย่างเข้า 25 เป็นปีเบญจเพศพอดี
หวังว่าถ้าผ่านเดือนนี้อะไรๆ ก็คงดีขึ้น เฮ้อ +0+...คิดแล้ว....เหนื่อยจิต
ช่างมันจะเกิดไรขึ้น ก็ก้าวต่อโลด...วิ่งเข้าชนลูกเดียว
หลังพายุจบลง คงเจอดินแดนแสนสงบสุขสักที

พูดเรื่องวันเกิดดีกว่า
อ้อม : ไม่รู้ว่าวันเกิดของคนอื่นๆ เป็นอย่างไร
ทุกปีจะได้ของขัวญจากเพื่อนๆ ปีนี้ก็เช่นกัน
สำหรับใกล้วันเกิดปีที่ 25 ปีนี้ อย่างที่บอกบรรยากาศอึมครึมพาลไม่สนอะไร
เลยไม่อยากไปไหน ไม่อยากทำอะไร ในหัวมีแต่เรื่องงาน งาน และงาน
แต่ก็ดีที่ยังมีเพื่อนๆ พี่ๆ แถมคนใกล้ตัว
ยังคอยใส่ใจ มาแอบกระซิบถามว่าเปลี่ยนอารมณ์ให้ดีขึ้น
อ้อม : (หึๆ ยิ้มมุมปาก) ชีวิตนี้ประสบความสำเร็จระดับหนึ่งมีคนใส่ใจ
เยส!!! เราไม่ได้ตัวคนเดียว โดดเดี่ยว เหี่ยวตาย ในโลกใบนี้...
เยส เยส เยส!!! ขอบคุณโลกอันแสนอบอุ่น ...

เย็นวันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 25552..........
เสียง..โทรศัพท์ดังขึ้น
เพื่อน : สรุป...อยากได้อะไร?
อ้อม : (คิด...ถามเยี่ยงนี้มันคิดได้หลายมุม)
อ้อม : รู้จักกันมาก็นาน จะไม่รู้เลยหรอว่าอยากได้อะไร
อ้อม : (คิด...แหม!!!..ประมาณว่าเราไม่มีสิ่งใดๆ สื่อถึงกันเลยว่างั้น)
อ้อม : (คิดบวก +_+...เออหน่า..เพื่อนใส่ใจ)
อ้อม : (คิดลบ -_- ...รึเรามันตัวแม่ แม่งเรื่องมาก เอาใจลำบาก ให้ของไม่โดน เดี๋ยววีนอีก)
อ้อม : แล้วไง คำตอบหรอ อืม....
(คิด...รีเควสเลยดีมะ ...จัดเต็มที่ เอาอะไรดีหว่า?...
มี List อยู่ในหัวตรึม... ...โคมไฟเลิศๆ เอาไว้แต่งห้องก็ดีจะอ่านหนังสือตอนกลางคืน
...ของแฮนเมด ไอเดียเก๋ๆ แต่งบ้าน,
...หรือจะเป็นน้ำหอม กลิ่นหรูหราแต่น่ารัก
...อ่อ..ออร์แกไนซ์แจ่มๆ ไว้จดไอเดียตอนพุ่งกระฉูดก็ดี
...กล่อง Mola เป็น Set แบบจับคู่สีสวยๆ เอาไว้เก็บของกระจุกกระจิก)
อ้อม : (เริ่มคิดได้) โอ๊ย..+_+" แล้วจะมาถามทำไมมมม? กันคับเพื่อนพ้องง...
เพื่อนเอ๊ย >>... ความจริงแล้วให้อะไรมาก็รับหมดละ
+++ น้ำใจจากเพื่อนนะ ยากจะปฎิเสธอยู่แล้ว +++

วางโทรศัพท์แล้วนั่งคิด...

อ้อม : (คิด...จริงๆ..แค่การ์ดเก๋ๆ ใบเดียว + ข้อความอวยพรหรือ Copy โดนๆ ก็พอแล้ว
ทำไมทุกคนมองเรื่องง่าย...ให้เป็นเรื่องยาก
หรือเราเป็นคนแบบ..เลือกยาก + เลือกมาก งั้นหรอ??
จะบ้าหรอคิดมาก...อยากให้อะไรก็จัดมาเลย
เราเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเพื่อน...จะให้อะไร)
อ้อม : (คิด..อะไรที่แพง แลดูฟุ่มเฟือย ให้แล้วประมาณว่าอดยาก ก็ไม่ต้องซื้อให้)
อยู่มาถึงทุกวันนี้ อายุก็จะย่างเข้า 25 ปีแล้ว เรียนรู้ที่จะคาดหวังอะไรกับตัวเองมากกว่า
อยากได้อะไรซื้อเอง ทำเอง หาเอง สบายใจที่สุด

แล้ววันเกิดนี่มันวันอะไร?

ทำไมใครหลายคนต้องคาดหวังอะไรกับวันนี้นัก...วะ..

บางคนบอกว่า..วันเกิดคือ ???
วันเกิด = วันที่เอาไว้ยืนยันตัวตนว่าได้เกิดมาบนโลกใบนี้
วันเกิด = วันที่ใครหลายคนบอกว่ามันคือวันแห่งความสุข
วันเกิด = วันที่ทำให้เรานึกถึงผู้มีพระคุณ(พ่อและแม่)
วันเกิด = วันที่ใครหลายคนบอกว่ามันพิเศษกว่าวันไหน
วันเกิด = วันที่เอาไว้เป็นข้ออ้างยกระดับรสนิยมการบริโภค ออกไปหาอะไรดีทาน
วันเกิด = วันที่คิดว่าเป็นวันของเรา (นี่คือ..วันของข้า 555)
วันเกิด = วันหาข้ออ้างซื้อของให้ตัวเองอย่างน้อย 1 ชิ้น
วันเกิด = วันที่ได้บงการ (เลือกเลยตามใจ)
วันเกิด = วันที่เรียกร้องสิทธิ (ทวง ทวง ทวง ของขวัญ...กับเพื่อนๆ และคนใกล้ตัว )
วันเกิด = วันแห่งการเสียทรัพย์ (เลี้ยง เลี้ยง เลี้ยง..เต็มที่ๆ..)
วันเกิด = วันที่ครอบครัวมารวมกันพร้อมหน้าพร้อมตา
วันเกิด = วันรวมหมู่มวลมิตร
วันเกิด = วันเอาเหล้าเข้าปาก
.........ต่างคน ต่างความคิด..........
วันเกิด = .......................ยังเป็นวันอะไรได้มากว่าที่คิด...................

อ้อม : ส่วนตัวแล้ว..วันเกิด ก็แค่วันธรรมดาเหมือนกับวันอื่นๆ ทั้งหมดนี้ใช่ว่าเราจะทำวันอื่นไม่ได้
วันอื่นก็ทำได้...ถ้าคิดจะทำ ความรู้สึกพิเศษ สร้างได้ทุกวัน

คำเตือน
ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง
เงินทองนั้นหายาก ข้าวยากหมากแพง
ด้วยความปรารถนาดีต่อสภาวะกระเป๋าเงินของทุกท่าน
อย่าซื้อของแพงมากมายให้นะ (เราอยากซื้อเองมากกว่า แบบเกรงใจโคตร..)
ให้อย่างที่อยากให้ เท่าที่ให้ไหว เราจะได้รับอย่างสบายใจ
ขอบใจมากมาย

27 April, 2009

นี่คือวงจรชีวิตทุกๆ วันล่าสุดของอ้อม

เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าตัวเองนอนดึกมาก เลยตื่นไม่เช้าเท่าไหร่
เกลี้ยกล่อมตัวเองให้ลุกจากที่นอนอยากสุด ๆ

อาการในตอนเช้าของอ้อม ก่อนลุกจากที่นอน ทุกเช้า

(ซึ่งกำลังพยายามปรับวิถีชีวิตในตอนเช้าให้เข้าระบบระเบียบใหม่ในไม่ช้านี้)

เสียงนาฬิกาปลุกมือถือที่ตั้งไว้ดัง
...........................ด้าย - ยิน - มั้ย - ...............ด้าย - ยิน - มั้ย ..............
...........................อยากฟังว่า ฉาน...ร๊าก เทออออ...............................
เสียงกดปุ่ม ปิด ตื้ด..เสียงในหัว... เออ....ได้ยินแล้ว ได้ยินทุกวันแหละ ........


อ้อม : อ้อมเอ๊ย..... ตื่นเหอะ เดี๋ยวไปทำงานสายนะ..... ตื่นเหอะ พูดจิงๆ นะ
ไปสายเสียเครดิตตัวเองนะเว้ย จะ Evaluate แล้ว ซีเรียสนะเนี่ย...ตื่นดิ...ตื่นเห๊อะ

อ้อม : (ตาปิดแต่สมองหาข้ออ้างมาสู้รบกับความคิดตัวเองอยู่)
เอาน่ามันเป็นช่วงวันหยุดยาวใครๆจันทร์อย่างนี้ต้องมีคนก็มาสายชัวร์ ๆ

อ้อม : ตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ 8.00 น. ค่อยๆ เลื่อนไปทีละ 10 นาที 15 นาที บ้าง
จนถึงขีดสุดที่จะเลื่อนได้แล้ว เลื่อนจน 9 โมง บางที ก็เลื่อนให้ปี๊ดสุดๆ เลย 9.30
(ก็พอดีลิมิตที่ออฟฟิศให้คนบ้านใกล้มาสายได้ 9.30 พอดีแต่นี่ยังไม่ถึงออฟฟิศ)

อ้อม : วู้...ขี้เกียจตื่นโว้ย เออ เออ ตื่นก็ได้ (บ่น...(มันจะยากเย็นอะไรหนักหนา

แค่ตื่นเช้า ทำไมแต่ก่อนทำได้เดี๋ยวนี้ทำไม่ได้แล้วรึไง
เออ!...เอาเว้ย!!......ตื่นก็ตื่นวะ!!!
อย่าทำให้เป็นเรื่องอยากเย็นนักเลยแค่ตื่นๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปแปรงฟัน ตัวโดนน้ำ
แป๊บเดียวก็สะดุ้งโหยงแล้ว เออก็จริง แล้วทำไมลุกยากนัก -_-"

...........อาบน้ำเสร็จ เปิดทีวีดูผู้หญิงถึงผู้หญิง ฆ่าเวลาให้หัวได้รับสาระในยามเช้า
แต่งตัวอย่างเร็ว บางวันอาจตัองเสียเวลาหนีบผมด้วยดันเลือกตัดทรงผมต้องเซ็ททุกวัน ลำบากจริง
อยากสวยแต่ดันลืมเผื่อเวลาตอนเช้า ...ผมก็เริ่มยาวแล้วจะให้หนีบก่อนนอนตื่นมาผมกระดกอีก
เสียเวลารีดใหม่อยู่ดี ช่างมันจัดการทีเดียวตอนเช้านี่ละ
สรุปเวลาที่หมดไปในตอนเช้าของอ้อม...
- ล้างหน้าแปรงฟันรวมๆกัน 5 นาที
- อาบน้ำ 10 นาที
- แต่งตัว 5 นาที (เลือกเสื้อผ้าเตรียมไว้แล้ว)
- ทายาที่หน้ารอแห้งแล้วต่อด้วยครีมกันแดด 5 นาที
- รีดผมไม่ให้ผมชี้ 15 นาที
- แต่งหน้าอีก 10 นาที
- เขียนตาอีก 5 นาที
โอ้..ชีวิต...อะไรมันจะต้อง เป๊ะ เป๊ะ ตามนี้
อนาถจิต...ใยต้องเร่งรีบกระเสือกกระสน
ลนลาน...ยังกับปลาอยากลงน้ำอย่างนี้

...........ออกจากบ้านล๊อคประตู พยายามเดินแบบก้าวยาวสุดขีดเพื่อพาตัวเองไปเรียกรถให้ไวสุด

...........ขึ้นรถเดินทางประมาณ 10-15 นาที ถึงที่ออฟฟิศ รถติดหน้าปากซอยใกล้ร้านหมูปิ้งแค่เอื้อม

บนแท็กซี่ ...
โห่... อดกินอีกละ ตื่นสายพลาดอะไรดีๆ เยอะเลย รถติดเว้ย...นั่งบนแท็กซี่แต่ลงไม่ได้
อยากกินหมูปิ้ง หิวข้าว.... นั่งมองร้านหมูปิ้งแค่เอื้อมในรถแท็กซี่ สำนึกผิดในผลกรรมที่ทำไว้เช้านี้
คิดซะว่านี่ไงพระเจ้าลงโทษคนตื่นสาย
นั่งมองอย่างสุดเสียดาย รถค่อยๆ เคลื่อนไป ร้านหมูปิ้งค่อยๆ หายลับไปจากตา
นั่งคิดงานที่จะทำวันนี้ ได้ยินเพลง
แท็กซี่เปิด เปิดเพลงอะไรวะ ไม่โดนเลย เช้า ๆ แบบนี้ต้องฟังเพลงชิลๆ ดิ จะได้เบรคเอารมณ์รีบๆ ลงบ้าง
รถติดก็ขอให้ได้ฟังเพลงที่ตัวเองอยากฟัง หาไอพอท ในกระเป๋าด่วนๆ
เปิดเพลงฟัง เฮ้อ...ค่อยผ่อนคลายหน่อย

ที่ทำงาน
___ถึงออฟฟิศ___สแกนนิ้วมือ__ทักทายพี่บีสุดสวย___หยิบถ้วยกดน้ำร้อน
___แบกกระเป๋าขึ้นชั้นลอย___ทอดรองเท้า___ใส่สลิปเปอร์___เดินขึ้นชั้น 2
___ทักทายพี่เพชร ___เปิดคอม___รอคอมเปิด___เทโอวัลตินแบบซองใส่แก้ว
___นั่งเก้าอี้พักหายใจ___จดเวลาแสกนนิ้ว___เปิดเมลเช็ค__ อ่าน Task เมื่อวาน
___ทำงาน___มองนาฬิกา___เที่ยงออกไปกินข้าว___เดินไปร้านข้าว
___โทรหาบิวทานข้าวยัง___ไปเซเว่น___เข้าออฟฟิศทำงาน___ทำงาน
___บ่ายๆ โทรหาบิวคุยนิดหน่อย
___งานเข้า___ทำงาน
___งานเข้า___ทำงาน
___เคลียร์งานเสร็จ
___โทรหาบิว
___ส่ง Task
กลับบ้าน
___หาข้าวเย็นทาน___อาบน้ำ
___เปิดMc Book___ เขียนไดอารี่___อ่านหนังสือ
___เผลอหลับ___อ่านหนังสือต่อ____หาว___อ่านหนังสือต่อ
___หาวอีก___ มองนาฬิกา___ตั้งเวลาปลุกมือถือ
___อ่านหนังสือต่ออีกหน่อย___เผลอหลับ(อ้างพักสายตา)
___นอนจิงเลยแล้วกัน
___ฝันดี
...นี่ละชีวิตใน 1 วัน...

26 April, 2009

สาวธาตุน้ำ by Avatar

นั่งว่าง เข้าเว็บไปมาเจอ AVATAR ของ Oriental Princess
เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นคนธาตุน้ำ
ทำนายแล้วได้ใจความประการฉะนี้...
สัญลักษณ์เด่นของคนธาตุน้ำ
คือการมีสัญชาตญาณอันไม่หยุดนิ่ง ฉลาดหลักแหลม   รู้ทันคน หากใครคิดจะลองดี 
หรือมาทำเล่ห์เหลี่ยมใส่คุณล่ะก็จะต้องมีเคืองแน่นอน  
เพราะจับไต๋เค้าได้ทันซะทุกทีเลยเชียว แต่บทสรุปของคุณนั่นก็น่าจะตรงกับคำว่า 
“น้ำนิ่งไหลลึก”คุณต้องการความสงบ และมีโลกส่วนตัวสูงแต่คุณก็เป็นคนที่มีความ  
สามารถในการปรับตัวอยู่ด้วย 
แต่ก็มีลักษณะด้อยดังนี้...
มักจะมีความหวังกับความเชื่อ แถมตั้งหน้าตั้งตารอความหวังอันสวยหรูนั้นอยู่ในใจ    
มากกว่าที่จะลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง และคุณมักจะชอบแบไต๋ให้คนรอบข้างรู้ซะหมดทำให้          
คนเค้ารู้ทางคุณหมด คนธาตุน้ำมักค่อนข้างออกแนวอนุรักษ์นิยม ทำให้ดูหยิ่งในตัวเอง           
มากไปหน่อย ฉะนั้นการไหลตามน้ำ ตามถานการณ์บ้าง ก็จะช่วยให้มีความสุขกับ               
ผู้คนรอบข้างได้มากขึ้น

การงาน
ลักษณะเด่น สีข้อความ
เป็นคนทำงานเก่ง มีความสามารถ ไม่ว่าปัญหาอะไรก็หาทางออกได้ 
ลักษณะด้อยเวลาทำงาน
ลักษณะคุณเป็นคนที่ชอบเฉไฉเกเรเรื่องการงานอยู่บ่อย ๆ ไฟไม่ลนก้นก็ไม่เป็นอันเสร็จสักที              
คุณจะมีแนวในการทำงานที่เป็นแบบฉบับเฉพาะตัว ห้ามมาสั่งให้คุณทำนะ แต่รอดูผลสำเร็จ         
ของเนื้องานก็พอ นั่นล่ะ concept ของคุณเลยล่ะ แต่บางครั้งคุณก็เหมือนกับคนที่             
ขาดความเด็ดเดี่ยว เป็นพวกชอบเรื่อยเปื่อยไม่ค่อยกระตือรือร้นหรือขี้เกียจมากไปหน่อย

การเงิน 
รสนิยมสูง คุณเป็นคนชอบใช้ของที่ดูหรูหรา มีราคา และให้ความสำคัญกับเรื่อง                  
Brand ของสินค้าเอามาก ๆ สินค้าแบรนเนมจึงมักจะได้ใจของคุณไปเต็ม ๆ ฉะนั้นจึงทำให้                          
สาวธาตุน้ำเป็นคนที่จะมีบัตรเครดิตในกระเป๋าเป็นกระตั้กเลยเชียว รูดก่อนผ่อนทีหลังนั่นเอง

ความรัก
“ขาดความรัก ก็ขาดใจ” คือ สโลแกนของแม่สาวธาตุน้ำ เป็นคนที่เรียกร้องเรื่องความ                 
รักมากไปหน่อย ต้องเติมเต็มความรักความอาทรอยู่ตลอดเวลา บูชาความรักเป็นยิ่งนัก                                 
 ทำให้คนรักหรือความรักในรูปแบบของคุณดูอึดอัดไปบ้าง เพราะมักจะงอแง               
 กับคนรักมากเป็นพิเศษ สร้างความกดดันให้ทั้งตัวเอง และคนรักมากไปหน่อยนึง 
( เอ่อ...แฟนมาอ่านคงหยองละได้ รู้หมดกันงานนี้ ^_^" )

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ชีวิตวันเสาร์ (25/04/2009) เหงาชะมัด

Sat 25/04/2009


วันหยุดที่ไม่อยากทำอะไรเลย...อากาศร้อน อยากนอนอยู่บ้านเรา นอนเรื่อยๆ อยากตื่นเมื่อไหร่ก็ตื่น 

อยากนอนเมื่อไหร่ก็นอน ไม่ต้องกลัวใครว่า ไม่ต้องมีใครบ่น...

นี่ละวันหยุดอย่างที่ต้องการแต่ไม่เคยได้ทำสักที ไอ้ไม่มีคนบ่นนะทำได้ แต่จะให้เรื่อยเปื่อยเฉื่ยแฉะทั้งวันคงไม่ดีมั้ง  

ยังมีภารกิจมิชชั่นที่แปลนไว้ต้องทำมากมายวันนี้

- อ่านหนังสือสำหรับเสาร์นี้เป็น  Wordpress

- ไปฟิตเนส

- เรียนWPเพื่อปรับแต่งทำ SEO 

แล้วกว่าจะตื่นก็ปาไปบ่ายโมงแล้ว จะได้ทำอะไรบ้างเนี่ย.. 

เลยตัดใจลุกจากที่นอน... จะบ่ายแล้วเว้ย ..งง ...ว่าทำไมถึงตื่นสายปานฉะนี้   

อ่อ...เมื่อคืนวันศุกร์เล่น--เฟซบุ๊คแล้ว อ่านหนังสือดึกนี่หว่า ....อ่านไป อ่านมาผลอยหลับไปซะงั้น

แต่จะพูดว่างั้นก็ไม่ได้ ก็ปาเข้าไปตีสองกว่าแล้วนิ 

ตื่นมาเอาผ้าใส่ตะกร้า เดี๋ยวต้องออกไปส่งผ้าให้ที่ร้านซักรีดก่อนไปหาข้าวกิน โอ๊ยอากาศมันร้อนอย่างนี้ฟะ 


.....บ่น บ่น บ่น เข้าห้องน้ำ แปรงฟัน แล้วคิดว่าจะกินอะไรประทังชีพดีวันนี้ และแล้วคำตอบก็แว๊บ..เข้ามาในหัว

ถึงแม้ว่ามมันจะเป็นคำตอบเดิมซ้ำๆ ทุกเสาร์ก็ช่างมันเหอะ อากาศร้อนขนาดนั้ใครจะอยากหาอะไรสร้างสรรค์ๆ กิน 

คิดได้แค่นี้ละ วันหยุด ก็ต้องประหยัดพลังงานดิ จะคิดมากไปใย ปิดแอร์แต่งตัวออกไปกินส้มตำ 

กินเสร็จแล้วค่อยว่ากันต่อ ...


.....ก็กระเสือกกระสนเดินไปถึงร้านส้มตำขาประจำ (ตั้งชื่อว่า ส้มตำเสาร์-ทิตย์

ตอนแรกว่าจะซื้อไปทานที่บ้าน แต่อะ ไหนๆ เดินมาแล้ว ขี้เกียจล้างจานเอง 

กินที่นี่ไปเลยละกัน ทนๆร้อนหน่อยพอกินเสร็จก็กลับบ้านเปิดแอร์เป็นอันว่าหมดข้ออ้าง

กินเสร็จอิ่มจัง นั่งกินเหงื่อเต็มหลังเลยวุ้ย 


.....จากนั้น เดินไปเอาซื้อเสื้อแล้วเดินเข้าบ้านโดยด่วนก่อนจะเป็นลมแดดอีก   

ปกติไม่ค่อยจะกินน้ำอัดลมสักเท่าไหร่กินเข้าไปมีแต่อ้วนกับอ้วน 

แต่อากาศร้อนซะขนาดนี้ขอโดนสักทีเหอะ 


.....กลับห้องเปิดแอร์   อาบนำ้ แปรงฟันอีกรอบ ให้มันชื่นจิต  

จากนั้นเปิดคอมดูตารางคลาสออกกำลังกายจะได้รู้เวลาว่าจะออกไปกี่โมง

พอได้เวลาออกกำลังกายแล้ว ต่อจากนี้ก็คือรอเวลาที่ต้องออกไปแค่นั้น  

อ่านหนังสือรอเวลาได้สบายมาก พอเปิดหนังสือเท่านั้นละ 

ตามันเริ่มจะปิดลงมาแหะ ตบหน้าตัวเองสักสอง สามทีเอาให้สร่างจากอาการง่วง 

จากนั้นก็ตั้งสติอ่านต่อไป


.....16.30 . ลืมตาเพราะว่าเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งในมือถืือดัง

อ้าวนี่เราไปอีกแล้ว ทำไมนอนได้ทั้งวันแบบนี้หว่า

นาฬิกาปลุกส่งเสียงปลุกแล้วได้เวลาออกไปออกกำลังกาย ท่องไว้

จงอย่าเกียจคร้าน... จงอย่าผลัดวันประกันพรุ่ง  

จัดแจงของใส่กระเป๋า พอไปถึง โอ้ว...ช้าไปรึเนี่ย คลาสมันเริ่มไปแล้วอะ ...คนมองตรึม

เดินเข้ามาสาย แต่ช่างมัน ใส่ใจอะไรคนไม่รุู้จักกัน ออกกำลังกายพร้อมกันชั่วโมงเดียว

เดี๋ยวก็แยกๆ กันกลับบ้านแล้ว อีกอย่าง คลาสเพิ่งเริ่มไปไม่กี่นาทีเอง 

เซ็ตอุปกรณ์แป๊บเดียวเองทันอยู่แล้ว 


.....ออกจากคลาสปั๊บเกิดอาการล้า หรือเราเล่นหนักไปหว่า?แต่ช่างเหอะ 

เต็มที่พรุ่งนี้ก็นอนปวดระบมทั้งตัวคาเตียงแหละ ใช่ว่าไม่เคยเป็นซะที่ไหน

ออกมาจากคลาสนี้แล้ว ก็อยากเล่นโยคะต่อ เออ  ลองฝืนๆ ดูแล้วกันถ้าไม่ไหวก็ค่อยออกมา

 

.....ลงชื่อ ..จองคลาส ยังไม่ทันได้เข้าคลาส อยากกลับบ้านแล้ววุ้ย ... อารมณ์ติสมันมาซะงั้น 


.....แวะโออิชิซื้ออาหารญี่ปุ่นก่อนกลับบ้าน  จากนั้นเดินไปชั้นหนึ่งแวะเข้า Rip Curl , Kyra

แต่ไม่อยากได้อะไรแหะ ผ่านบู้ทงานกลางห้าง มีออกงานเลยแวะซื้อขนมฝากเจอเยลลี่น้ำองุ่นของกบประภัสรา 

ที่มาออกบู้ทงานเบเกอรี่อะไรสักอย่างที่ห้างเอสพลานาสนี่ละ แล้วก็โดนัทติ๊กชีโร่  พอซื้อกลับไปคุณตุ๊ซัดซะซัดเรียบเลย 

ก็ดีนะเป็นโดนัทที่ไม่หวานมาก อ่อ ลืมเล่าไปว่าที่ถุงแพคแกจโดนัทมีเชียนไว้ว่า Low fat ด้วย  เรื่องสีสันและแพคแกจ

บ่งบอกความเป็นติ๊กชีโร่ดีนะเนี่ย  แถมที่บู้ทยังเปิดเพลงโปรโมทซะด้วย ... อ่านะ อุดหนุนพี่เขาหน่อยค่อนข้างลงทุนนะ 

มีทั้งเพลงโปรโมทร้าน สปอตเปิดในบู้ทก็มี หน้าตาโนัทก็ไม่ได้ขี้เหร่ ก็น่ากินทีเดียว

ถึงไม่ชอบทานของหวานแต่ก็ทำให้อยากซื้อฝากคนที่บ้าน


.....กลับถึงบ้านรู้ตัวเลยว่าอ่านหนังสือไม่ทันสุดยอดกูรู  SEO  มาสอนแน่นอนเลยโทรไปเลื่อนนัดขอเป็นช่วงหัว

ค่ำวันจันทร์ ละกัน จะได้อ่านหมดทั้งเล่มแล้วจะได้คุยกันรู้เรื่องหน่อยจะหวังให้พี่เค้ามานั่งบอกทุกเรื่องก็ไม่ใช่เรื่อง

ต้องคลำๆ ด้วยตัวเองก่อน


.....แค่นี้ละชีวิตวันหยุด  อ่านหนังสือเขียนไดอารี่ ไม่ติดต่อใครทั้งสิ้นตัดขาดบ้าง 

.....ผักพ่อน ....แต่เหงาวะ  เมื่อคืนก็พลาดเพื่อนสาวนัดไปนั่งเม้าท์

ที่บ้านไร่กาแฟ ตอนนั่งรถออกมากับพี่ๆ ที่ออฟฟิศ โทรหาคุณปิ๊ก ดันไม่รับโอ๊ะ

กลับบ้านก็ได้วะ  อารมณ์เหนื่อด้วย..เลยอยู่แบบนี้ละะ เออ ปล่อย ให้เหงาๆ ไปวัน 

15 April, 2009

รู้จักฉัน

15/04/2008


และ...แล้วก็ได้ฤกษ์ประเดิมบล็อกแล้วทุ่มมันทั้งวันนั่งทยอยถอดเรื่องราวที่เขียนใน My Diary ลงใน Blog สักที กว่าจะได้ทำ

เฮ้อ...อยู่เหงาๆ คนเดียวตามลำพัง ...ก็ดี ชวนให้ตัวเองคิดอะไรได้มากขึ้น

ไม่รู้วันนี้จะเขียนเสร็จเปล่า แต่พยายามเข้า ลุยเลยแล้วกัน ....

อืม...จะเขียนไงดีหว่า .... คิด คิด คิด ...เริ่มจากแนะนำตัวเอง แล้วตามด้วยเรื่องอยากเขียนมากที่สุดแล้วกัน

ชื่อเสียงเรียงนามที่เรียก ตามๆกันมาถึงทุกวันนี้ ภาวินี สุพรรณวรนพ

ถ้าอยากเรียกสั้นๆ ฟังเป็นกันเอง ก็เรียกว่า อ้อม

วันที่ได้เผยอเปลือกตาดูโลก 12/05/1984

อายุ ณ ปัจจุบัน 24 (อีกเดือนครึ่งจะ 25)

กรุ๊ปเลือด O นับถือศาสนาพุทธ และเป็นคนไทย 100% (แอบมีเชื่้อจีนมาตี๊สนึงตามบรรพบุรุษ เลยทำให้ต้องปฎิบัติตามประเพณีทางบ้านที่สืบทอดกันมา เอาจริงๆ ก็ไมได้รู้เรื่องเท่าไหร่นักหรอก ก็ตามๆ น้ำไป)

ชอบสี ชมพู, ดำ

อาชีพปัจจุบัน Creative & Copywriter

อาชีพปัจจุบัน----> Update ล่าสุด เดือน 20-09-2009 Online Strategic Planner

นิสัยใจคอ รวมๆก็ดีไม่มีพิษมีภัย ไม่ทำต้วป่วนเที่ยวซุ่มวางระเบิดใครแน่นอน, ชอบสร้างสรรค์, ค่อนข้่างมีระเบียบ , รักความสะอาด, ซีเรียสจริงจัง(แต่ไม่ได้เครียดนะ), Alert อยู่ไม่สุข ชอบหาอะไรทำ, ชอบตกแต่งบ้านทำของ DIY เก๋ ทำอะไรซ้ำๆ จำเจไม่ค่อยได้ พาลจะเบื่อเอา, ชอบงานศิลปะ, ชอบถ่ายรูปบางทีก็เน้นเป็นแบบซะส่วนใหญ่, ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ, ใจร้อนบ้างบางที (แต่ไม่เดือดร้อนใครแค่รู้สึกหงุดหงิดกับตัวเองซะมากกว่า), บ้างานบ้างโอกาสถ้าทำให้เสร็จหรือทำล่วงหน้าได้ก็จะดี, ชอบความแน่นอน, บางครั้งประหม่ากับเหตุการณ์เฉพาะหน้าเพราะกลัวทำออกมาไม่ดี ถ้าได ้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะเวิร์คมาก มั่นใจสุดๆ)

สนใจเป็นพิเศษ Advertising, Languages, Arts, SEM (SEO), Films and Book

หนังเรื่องโปรด Ameile, Lost in Translation, Lake House, Harry Potter, Unfortunate Events, Raise your voice, Big Fish, The Curious Case on Benjamin Button and lots more...

หนังที่พลาดและต้องหาดูให้ได้เร็วๆนี้ Love Actually, เพื่อนสนิท (ที่เค้าดูกันทั่วบ้านทั่วเมือง), Click, Across the Universe

หนังสือเล่มโปรด Confessions of shopaholic, Remember me?, Harry Potter, The Princess Diary, etc.

ศิลปินคนโปรด Hillary Duff, Norah Jones, Corinne Bailey Rae, Kelly Sweet, Joannan Wang, Jack Johnson, Mocca, Gwen Stefani, Mariah Carey, Will Smith,The Pussycat Dolls,etc.

แนวเพลงที่ชอบ JAZZ, BOSSA, POP, SKA......etc.

My Favorite Quote : Impossible is nothing

และพึงเตือนตัวเองเสมอว่า :

- ถ้าวิ่งแล้ว จงวิ่งให้เร็ว และไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้

- ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ถ้ายังไม่พยายาม

- จะทำอะไรแล้ว ก็ทำให้มันสุดๆ ไปเลย...

สิ่งที่พยามยามในแต่วัน (แต่ทำไม่ค่อยได้ และยังคงพยายามต่อไป ) คือ คิดทุกเรื่องให้เป็นบวก และทำอะไรก็ทำให้มันสุดๆ ไปเลย

รักสุดๆ ในชีวิต : หนึ่ง...ครอบครัว อันได้แก่บิดา และ น้อง

สอง... คนรัก (ซึ่งก็ต้องดูว่า...จะทำตัวดีให้น่ารักไหม)

หวงสุดๆ ในชีวิต : ครอบครัว, คนรัก(ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันแน่ หึๆ), ของสะสมตุ๊กตาหมี, Blythe และ MacBook Pro คู่ใจ


ห่วงสุดๆ : ครอบครัว, คนรัก

ทำอะไรบ้างยามว่าง

(ที่ทำบ่อยๆ) : ขอนอนอย่างแรก (เพราะว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด พักสมองบ้างจะได้ไม่ต้องคิดเยอะ), เขียนไดอารี่ , เข้าฟิตเนส, ช้อปปิ้ง, เดินเล่น LOFT , เดินเล่น Paragon โซน Be Trend (เน้นเดินในห้างเพราะขี้ร้อน), สวนจตุจักรโครงการด้านนอกก็ได้อยู่ แต่ต้องเจอกันสี่โมงเย็นเป็นต้นไป ไว้เดินดูของ เก๋ๆ กู๊ดไอเดีย ไม่ชินตา พวกของแปลกๆ ของสะสม เพื่อเปิดสมองหาแรงบันดาลใจในการคิดงาน หาเรื่องเสียเงิน หาของเข้าบ้านเพิ่ม....(แม้ระยะหลังๆ นี้ ไม่ค่อยได้ออกไปก็งานมันเยอะ กลับดึกๆ ติดๆ กันพอถึงเสาร์-อาทิตย์ ก็อยากอยู่บ้าน แถมอากาศร้อน ขอนอนตากแอร์ซะยังดีกว่า )

ที่ทำไม่บ่อย (ที่ทำบ้่าง...บางครั้ง...บางครา ถ้าเหนื่อยนัก) : ไปนอนนวด (หรือไปนอนให้เข้ากดๆ บีบๆ โดยใช้แรงซะงั้น), ไปสปา

ความฝัน (ที่อยากให้เป็นจริง) : อยากก้าวหน้า, เป็นผู้นำ, มีความมั่นคง อยู่กับครอบครัว มีเวลาอยู่กับปะป๊า + น้อง ให้มากขึ้น อยากทำให้ครอบครัวและคนรักภูมิใจ

ของที่พกติดตัวไปด้วยเสมอ : พกเงิน(ที่สุดของจำเป็นแห่งวัน), สร้อยคอ, พกมือถือจำเป็นเช่นกันไม่งั้นเหมือนหลุดไปจากโลกนี้, พกเครื่องสำอางค์ เล็กๆน้อยๆไว้เผื่อใช้,ปากาเขียนลื่นปื้ด, ไดอารี่ไว้โน้ตโน่นนี่กันลืม หรือบางทีเจอเหตุการ์ดลใจให้อยากเขียน หรือเอาไว้จดไอเดียงานที่จู่ก็คิดออกแบบไม่ตั้งตัว, iPod พร้อมที่ชาร์ตถ้าแบตหมดจะหงุดหงิดิดนึง, หนังสือเอาไว้อ่านแก้เหงา, กระดาษทิชชู, หมากฝรั่งเคี้ยวแก้เซ็ง (คนรัก และ Mac Book (ในบางโอกาสถ้าเอาไปได้))

ของสะสม : โปสการ์ด, ตุ๊กตาหมี Teddy House และ Collection เสื้อผ้า, ของเล่น Macdonald, ตุ๊กตา Blythe

สถานที่ที่ไปบ่อย : Esplanade ไปฟิตเนส, เล่นโยคะ, ทานข้าว, ดูหนัง, ช้อปปิ้ง เช่น ซื้อของที่ NYLA, แวะ iStudio บ้างบางครั้ง, เดินดูหนังสือที่ B2S

สิ่งที่ภูมิใจ : ภูมิใจในตัวเอง(เราโตแล้ว เราเป็นผู้นำครอบครัว), ภูมิใจในน้องสาว (รักและรู้สึกขอบใจ...ที่ทำตัวดีไม่มีให้หนักใจ เป็นที่ปรึกษา และเป็นเด็กที่คิดได้เสมอๆ) ภูมิใจในคนรัก (ขอบคุณนะ...ที่รักกัน อยู่ใกล้ๆ คอยปกป้อง เป็นที่ปรึกษาและเป็นที่ระบายคอยรับฟังเรื่องราวต่างๆ แม้ว่าเดี๋ยวนี้จะไม่มีเวลาแบบก่อน)

ภูมิใจในเพื่อนที่คบอยู่ คอยเป็นที่ปรึกษา คอยติดต่อและพูดคุยกันบ้างในบางโอกาสเสมอๆ

สิ่งที่ต้องทำให้ได้ในอนาคตอันไม่ไกลเกินเอื้อมนี้ : บ้านใหม่ (ให้ปะป๊ากับน้อง), รถของเรา(ให้ตัวเองแม้ว่าจะขี้เกียจขับ มากๆ)

..........อืม.........คิด คิด คิด (ไม่ออกแล้ว).....ขอพอแค่นี้ก่อน .... งั้น


.... ลา ไปนอนก่อน บาย ....หาววววววววว


Update ณ วันที่ 15/03/2009